Therapist's Diary 2 พาน้องใหม่ฝึกนวดไทย Thai Massage Training

คนหลายคนมอง ชีวิตสาวสปา ดี๊ ดี... แต่งหน้าสวย แต่งตัวสวยทุกวัน ทำงานห้องแอร์ นวดก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรเล้ยยยย

" ไม่จริง " 

วันนี้แหละ พามาเปิดประตูสู่เส้นทางกรรมกรบนหลังคน ฮาาาา... ตามมาๆ จะพาเข้าห้องเทรน!!

Credit Image : Banyna Tree Spa 
เล่าไปแล้ว ถึงเรื่องการสมัครงาน สมัครผ่านแล้ว ขั้นต่อไป เตรียมตัวเข้าห้องเทรน ใครยังไม่ได้อ่าน ย้อนกลับไปติดตามได้ใน Therapist'Diary : To Be a Spa Girl : สมัครงานกันดีกว่า
บันยันทรีสปา และอังสนาสปา  เป็นสปา 5 ดาว ที่มีสาขาอยู่ ในประเทศไทย และ หลายที่ในต่างประเทศบริษัทจึงมีการฝึกอบรมพนักงานนวดเอง มีครูฝึกสอน ที่เราเรียกกันว่า "เทรนเนอร์" มีสถานที่ที่ใช้ทำการฝึกที่เรียกว่า "สปาอคาเดมี่"

ในอคาเดมี่จะเป็นที่บ่มเพาะ พนักงานนวด ให้เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งภาค ทฤษฎีและปฏิบัติ ก่อนออกไปสู่สถานที่จริง

พนักงานใหม่ จะได้เจอเทรนเนอร์และอคาเดมี่ 'ทุกวัน' จนกว่าจะผ่านประเมินให้ออกไปให้บริการ ซึ่งช่วงเวลาที่อยู่ในอคาเดมี่นั้น อย่างต่ำก็ 2-3 เดือน ส่วนพนักงานที่ร่วมงานกับบริษัทแล้ว และออกไปให้บริการที่บันยันทรีสปา หรือ อังสนาสปา ในสถานที่จริง ซึ่งเราเรียกว่า "เอาท์เลต" จะถูกเรียกกลับเข้า "ห้องเทรน" เพื่อฝึกการนวดเพิ่มเติม รวมถึงคอร์สความงามต่างๆที่พื้นฐานของหมอนวดอินเตอร์จะนำไปใช้งาน เช่น Waxing , Facial ( ทำหน้า ), Pedicure & Manicure ( ทำเล็บ ) จนไปถึง Hair Dressing ( การทำผม ) .... ฟังดูเริ่มสนุกแล้วใช่มั้ยล่ะ



เดือนแรก... พื้นฐานการนวดไทย

ช่วงเดือนแรกนี้น้องๆ จะยังไม่ได้เป็นพนักงานอย่างเต็มตัว เรียกได้ว่าเป็นการปูพื้นฐาน สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์นวดมาก่อน 
ผู้ที่ผ่านการสมัครงานและไม่เคยมีประสบการณ์นวด จะใส่ชุด โปโลสีขาว กางเกงสีดำ ซึ่งพี่ๆเรียกติดปากว่า น้องขาว-ดำ หรือ น้องนวดไทย

เด็กชุดนี้ คือ น้องที่จะฝึกพื้นฐานนวดไทย ตลอด 1 เดือน การเรียนของน้องแบ่งเป็น 4 ส่วนที่สำคัญ คือ 

     1. การนวดไทยปฏิบัติ ( xx ชั่วโมง ) 
       2. Anatomy พื้นฐานสรีระร่างกาย หรือ กายวิภาคศาสตร์ 
       3. ประวัติความเป็นมาของการนวดและฝึกทำสมาธิ
       4. ภาษาอังกฤษเพื่อการบริการ


1. การนวดไทยปฏิบัติ บริษัท บังคับการเรียนเป็นเวลา xx ชั่วโมง เมื่อเรียนจบ บริษัทจะออก ใบประกาศให้ ซึ่งใบประกาศตัวนั้นมีประโยชน์มาก หากวันหนึ่งที่เอาไปใช้สมัครงานที่อื่น แล้วบอกว่า จบมาจากบันยันทรี ใครๆก็อยากได้คุณเข้าร่วมงาน 

การนวดไทย ถือว่าเป็นศาสตร์มรดกอันล้ำค่าที่ควรภาคภูมิใจในภูมิปัญญา วิถีชีวิตวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ ในการรักษาโรค เพื่อสุขภาพที่ดีและเพื่อการผ่อนคลาย




การนวดไทย เราจะต้องรู้ ว่าจุดต่างๆ ของร่างกายมีอะไรบ้าง กดจุดไหนได้บ้าง จุดไหนเกี่ยวพันกับจุดไหน กดตรงไหนได้ กดตรงไหนเจ็บ กดตรงไหนตาย... (อันนี้ยังไม่มี) เส้นประสาท เส้นเอ็น กระดูก ซึ่งเกิดขึ้น
ในช่วงเริ่มต้น แน่นอนว่าทุกคนว่ากดผิด กดถูก กดแบบเอาเป็นเอาตาย ซึ่งที่กดอยู่นั้นคือกระดูกของเพื่อน ช่วงฝึกในเดือนแรก จึงสำคัญ และ เป็นการวัดกันเลยว่า จะมีความอดทนพอที่จะทำอาชีพนี้ต่อไปได้มั้ย 






การนวดไทยมี 2 แบบ คือ ราชสำนัก และ เชลยศักดิ์ น้องขาวดำจะได้เรียนแบบ ราชสำนัก ซึ่งเป็นท่านวดไทยของอังสนาสปา

อย่างที่เคยบอกไป บันยันทรีสปา และ อังสนาสปา มาจากบริษัทแม่เดียวกัน แต่ จุดขายของสปาต่างกัน ท่านวด การบริการจึงแตกต่างกัน 

นวดแบบราชสำนัก เป็นท่านวดไทยของอังสนาสปา ในเมนู จะขายโดยใช้ชื่อ "Siamese Massage"

ถ้าน้องผ่านเข้าไปได้บันยันทรีสปาล่ะ 

น้องก็จะต้องเรียนนวดไทยเพิ่มอีกท่าคือ นวดแบบเชลยศักดิ์ ในเมนูชื่อ "Asian Blend Massage"

การนวดไทย คือ การนวดแบบไม่มีน้ำมัน นวดกดจุดตามร่างกายและมีการเพิ่มการดัดตัว เพื่อจัดโครงสร้างร่างกาย 

ใครสนใจอยากเรียนรู้เพิ่มเติม ตามไปอ่านลิงค์ที่จ้ะ 



2. อนาโตมี่ กายวิภาคศาสตร์ หรือ ศึกษาพื้นฐานโครงสร้าง ร่างกายนั่นเอง ... ของยากมาแล้ว 
บอกเลยว่า วิชานี้ไม่หมู เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อศึกษาสำรวจร่างกายมนุษย์ อันได้แก่ ระบบภายนอกและระบบภายใน





ภาพที่เห็นด้านบนนี้ คือ สิ่งที่เราจะต้องเรียน เพื่อที่เราจะได้รู้จริงว่า เส้นประสาท เส้นเลือด เส้นเอ็น ส่วนไหนทำงานยังไง สัมพันธ์กันยังไง เพราะ สุดท้ายแล้วมันเกี่ยวกับการนวดล้วนๆ


3. ประวัติความเป็นมาของการนวดและฝึกพื้นฐานการทำสมาธิ 
รวมไปถึงการออกกำลังกายเล็กน้อย
สนุกมากส่วนนี้ การออกกำลังกายที่ว่า เพื่อไม่ให้เราง่วงในช่วงบ่ายๆ 
เทรนเนอร์จึงให้เรา Push Up โดยใช้ นิ้วทั้งสิบ เท่านั้นในการวิดพื้น 
บวกกับการฝึกนวดทุกวัน ทำให้เดือนแรก ไม่สามารถบีบยาสีฟันออกจากหลอดได้เลยทีเดียว มันเจ็บจริงๆ

 ใจเย็นๆค่ะ มันไม่ได้โหดขนาดนั้นหรอก ทุกคนทำได้ อย่างน้อย ก็ 99% ทำได้

ใครก็ตาม ไม่เคยทำงานหนัก มาเจอฝึกแบบนี้เดือนแรกก็ท้อบ้าง แต่มองไปไกลๆ อนาคตกำลังจะไปได้สวย ฮึดสู้สุดๆ

ประวัติการนวดไทย และเรื่องต่างๆรอบตัว ก็สำคัญ เราถึงต้องมาเรียนวิชานี้ เพื่อเราจะได้จดจำ ว่าทำไมจึงมีการนวดเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ และ ที่จะได้เรียนอีกอย่างในคลาสนี้คือการฝึกทำสมาธิและ

"ฤๅษีดัดตน"  เป็นการบริหารร่างกายของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งเน้นการฝึกลมหายใจและใช้สมาธิร่วมด้วย จึงเป็นทั้งการบริหารร่างกายและบริหารจิต รวมทั้งช่วยในการบำบัดอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นได้ในระดับหนึ่ง 



ฤๅษีดัดตน ก็เหมือนโยคะ เมื่อออกทำงานแล้ว เราสามารถแนะนำแขกได้ด้วยว่า ถ้าเจ็บตรงนี้ควรออกกำลังกายเบาๆได้ท่าไหน แม้แต่ตัวคนนวดเอง ปวดโน่นปวดนี่ ก็สามารถแก้ขัดด้วยท่าดัดตนง่ายๆ


4. ภาษาอังกฤษเพื่อการบริการ ใครชอบใครถนัดภาษาอังกฤษไม่ยากเลย เป็นเบสิคในการแนะนำตัวกับแขก ถามความต้องการในการนวด น้ำหนักในการนวด ถามอาการได้ รู้ว่าแขกต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร และ ถามความชอบของแขก เพลงดังไปมั้ย อากาศหนาวมั้ย ให้เบาแอร์หน่อยมั้ย ปวดหนัก นวดเบา ไม่นวดส่วนไหน เน้นส่วนไหน ประมาณนั้นล่ะ

ของจริง อาจารย์ไม่ได้หล่อขนาดนี้นะ

ทุกคนจะฝึกแบบนี้ไปตลอด  1 เดือน เก็บสะสมชั่วโมงนวด ฝึกกับเพื่อนๆ ฝึกนวดให้คนที่บ้าน แล้วจะต้องเก็บบันทึกชั่วโมงการหัดนวด

เมื่อมาถึงปลายอาทิตย์สุดท้ายจะมีการทดสอบ ทั้งแบบทดสอบข้อเขียน แบบพูดทวนความจำ และ ปฏิบัติการนวดไทย โดยต้องนวดกับเทรนเนอร์

แล้วจะรวบรวมคะแนน ประเมินตลอดระยะเวลาที่อยู่ร่วมกันมาว่า เราสามารถ ผ่านไปเป็น พนักงานของบริษัทหรือไม่ ซึ่งส่วนมากก็ผ่านค่ะ


เอาภาพให้กำลังใจเพื่อนๆมานะคะ เป็นภาพเราตอนสมัยเป็นนักเรียนฝึกหัดค่ะ
เพื่อนๆจากบันยันทรี อังสนาหลายๆคน เข้ามาอ่าน ลองดูนะคะ มีรูปใครอยู่บ้าง


Spa Training Group 45

ใครอยากรู้สมัครงานยังไงติดตามได้ที่

Therapist Diary 1





มีคนถามหลายคน เราเดินทางยังไง

เราทำงานค่ะ ทำสปาบนเรือ เดินทางไปเพราะทำงานจ้า มีเวลาว่างก็แวะลงเที่ยวทุกที่เลย อาจไม่ได้มีเวลาเที่ยวแบบเต็มๆ แต่เที่ยวเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ

ตอนนี้ไม่ได้ทำงานสปา ไม่ได้ทำงานเรือเเล้วค่ะ แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ  จะเริ่มเอาเรื่องการเดินทางมาเขียนลง ให้อ่าน เผื่อมีบางทีไปตรงใจใครๆบ้างจะได้ตามรอบกันไป

ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมไปอ่านได้ที่บล้อกจ้า เขียนเรื่องการทำงานไว้ด้วย www.aladynamedfern.blogspot.com

เพิ่งสร้างเพจเฟซบุคเพจ จะทยอยเอารูปสวยๆไปลงให้ดูนะคะ ที่ https://www.facebook.com/A-Lady-Named-Fern-536560906499963/?ref=hl

หรือใครสนใจอยากเห็นสภาพปัจจุบันที่กลายมาเป็นสาวออฟฟิศของเรา ลองแวะเข้าไปที่ IG https://instagram.com/aladynamedfern/







0 comments: