Khaosok Boutique Camps ที่พักแสนสงบท่ามกลางหุบเขา ณ เขาสก สุราษฎ์ธานี

สุดสัปดาห์นี้ มาไกลอีกนิดที่ อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฏ์  งานนี้ขับรถหนีฝน หนีความวุ่นวายจากภูเก็ต มา 3 ชม.  เพื่อจะมาพักผ่อน ณ รีสอร์ทที่ทำให้รู้สึก ว้าว! ตั้งแต่เห็นทางเข้า




เป็นการเที่ยวแบบไม่แพลน เพราะก่อนออกเดินทางจากภูเก็ต เช้านั้นตื่นมา เช็ค booking.com หาที่พักแถวอุทยาน เจอที่นี่ราคาไม่แรง ตัวห้องพักดูน่าสนใจ(กว่าที่อื่นมาก) เป็นแบบเต๊นท์มหึมาที่มีเตียงและแอร์พร้อมห้องน้ำในตัว  ราคาที่ THB 1,300 จองปุ๊บเก็บกระเป๋าปั๊บ ทำโน่นนี่นั่น ล้อหมุนออกจากภูเก็ตเกือบเที่ยง แวะทานข้าว แวะปั๊มน้ำมัน แวะดื่มกาแฟ ขับมาแบบไม่เร่ง เพราะฝนตกตลอดทาง แถมหลงทางไปด้วยนิดหน่อย เพราะ  GPS บอกทางผิด 555 ในที่สุดก็มาถึง ... ขอบอกว่าหายเหนื่อย!

Khaosok Boutique Camps


ทางเข้ามีป้ายเขียนบอกทางไว้ ผ่านไร่สับปะรดแล้ว จะเจออีกป้ายก่อนขับขึ้นเนินชันๆที่มีโค้งหักศอก
แล้วเราก็มาถึงโรงแรมบ่ายคล้อย เช็คอิน รับกุญแจห้องไป




และนี่คือ... ที่พักที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ คือเป็นเต๊นท์ส่องสัตว์ในแอฟริกา 555 บางหลังก็ใช้ทางขึ้นเดียวกัน บางหลังก็เป็นบันไดแยก บางหลังเป็นห้องแบบครอบครัวที่มีหลายๆเตียงข้างใน

และนี่ ...ห้องพัก 1 คืนของเรา  Standard Double Room เป็นห้องแบบ เตียงเดี่ยว ที่มีแอร์ในห้อง


พนักงานอธิบายให้ฟัง หากต้องการออกจากห้องนอน ให้ล็อคเต๊นท์ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย เพราะมันไม่มีประตู 


เต๊นท์มีขนาดใหญ่มาก สามารถจุเตียงเข้าไปได้ ให้ความรู้สึกว่าไปแค้มปิ้งจริงๆเพราะมีไม่ส่วนไหนเลยที่เป็นประตู แม้แต่รอยต่อที่จะเข้าห้องน้ำ ก็ต้องรูดเต๊นท์กันออกไป 




ในส่วนของห้องน้ำ แยกฝั่งซ้ายเป็นห้องอาบน้ำฝั่งขวาเป็นชักโครก ตรงกลางเอาไว้แปรงฟันล้างหน้า  ความสะอาดนับว่าโอเค ถ้าไม่ติดไอ้รอยดำๆ ตามขอบไม่ไผ่ และ ขอบโถ 555 ก็บริเวณนี้มันเป็นป่า ชื้นตลอดเวลา เป็นธรรมดาที่ต้องมีราสิงตามซอก ขอแค่มีน้ำอุ่นให้อาบก็พอใจแล้ว


มาดูเรื่องของจุดชมวิวจากห้องพัก 
ห้องทุกห้องจะอยู่มุมสูง ไล่ขั้นลงไปตามลำดับ แต่วิวที่ได้ จะคล้ายๆกันคือ วิวแบบนี้! ( วิวป่า )




 และความสูงขนาดนี้! เหมาะกับครอบครัวที่ชอบผจญภัยเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่เข่าไม่ดี





เก็บของไว้ในห้องแล้ว ออกมาเดินสำรวจบริเวณที่พักว่ามีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง
ที่นี่มีร้านกาแฟบรรยากาศน่ารัก ซึ่งไม่แน่ใจว่าเปิดให้บริการเวลาไหน เพราะตอนที่ไปปิดพอดี



ข้างๆกัน มีสระว่ายน้ำที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ เป็นจุดมองพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด








ใครจะไปใครจะมา จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าเหมียวแห่งรีสอร์ทที่ตามไม่ยอมห่าง ... ตัวนี้ ...


สิ่งที่ไม่ควรพลาดในการมาพักที่นี่
คือการได้ถ่ายรูปยามพระอาทิตย์ตกดิน ณ จุดชมวิวนี้แหละที่ทำให้รูปถ่ายของเราออกมาชวนฝัน


พออาทิตย์ตกทานอาหารเย็น ก็กลับเต๊นท์ นอนเล่นเนต มืดๆ ซึ่งกลางหุบเขาแบบนี้ สัญญาณ Internet ดีกว่าโรงแรมในเมืองอย่างไม่น่าเชื่อ ประทับใจมากที่เต๊นท์มีไฟฟ้าแค่ 3 จุดคือ ห้องนอน ... ห้องน้ำ ... ระเบียง ... แต่กลับมีอุปกรณ์ชาร์จไฟหลายจุด



รวมๆแล้ว ที่พักโอเคม้าาากก ลากเสียงยาวให้ ถึงแม้เต๊นท์จะผ่านการโดนแดดเลีย ลมกรรโชก ฝนสาดมาอย่างโชกโชนแต่เป็นเต๊นท์ที่ดูแข็งแรงและสะอาด (ไม่นับรอยคราบราดำๆตามมุมเต๊นท์) ส่วนห้องน้ำมีน้ำอุ่นเป็นที่น่าพอใจ คืนนี้รู้สึกว่าจะได้นอนหลับอย่างปลอดภัย 


แต่... คืนนั้นฝนตกหนักมากกกก ลากเสียงให้อีก ยิ่งรู้ว่านอนเต๊นท์ก็กลัวลมจะพัดหลังคาไป เพราะมีทั้งน้ำสาด เสียงลม เสียงฝน แต่... เราก็ผ่านมันมาได้อย่างปลอดภัย เหตุการณ์นี้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจน เต๊นท์แข็งแรง ภายในไม่รู้สึกสะเทือน เลยมาเแนะนำเพื่อนมาพักต่อได้

ยกเว้น... คนที่กลัวตุ๊กแก คือมันต้องอยู่ที่ไหนสักที่ในห้องเรานี่แหละเพราะเสียงมันดังมาก ร้องทุกๆครึ่งชั่วโมง มันหยุดก็ต่อเมื่อฝนตกหนักเท่านั้น ( จริงๆแล้วเสียงฝนอาจกลบเสียงตุ๊กแก )

ฝนหยุดก็เกือบเช้า ตื่นมาตามเวลานาฬิกาปลุก 6โมง เพื่อออกมาดูหมอก เราจึงได้ภาพแบบนี้




เสร็จภารกิจหมอกยามเช้า ก็ได้เวลาอาหารเช้า แบบง่ายๆ เอาใจทุกเชื้อชาติ เช่น ขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ ไข่ดาว ออมเลต ข้าวผัด หมี่ผัด ข้าวต้ม ทุกอย่างฟรี! รวมในราคาห้องพักของเราแล้ว หลังจากนั้นเราก็เช็คเอาท์ เพื่อเตรียมตัวเที่ยวเขื่อนต่อไป



มาดูข้อดี - ข้อเสียกัน อันนี้วัดเอาจากความรู้สึกส่วนตัวจากการเข้าพักที่นี่

  • ข้อเสีย ไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำเลยที่โรงแรม และเครื่องดื่มราคาสูงไปหน่อย
  • ข้อดี มันคือการได้พักจริงๆ เพราะ อย่างน้อย Internet เค้าก็เริ่ดสัญญาณดีมาก ถึงแม้โรงแรมจะไม่มีกิจกรรมเยอะแต่รอบๆ ก็มีกิจกรรมน่าสนใจ เช่น ขับรถออกมา แทนที่จะเลี้ยวซ้ายเพื่อออกถนนใหญ่ แต่ให้เลี้ยวขวาไป 300 เมตรจะเจอบริษัทนำเที่ยว พายเรือแคนูล่องแม่น้ำ เปิดให้บริการ 9.00 - 17.00 และ ใครต้องการหาขนม เครื่องดื่ม หรือเบียร์ราคาไม่ติดชาร์จแพง ร้านข้างๆกันเรือแคนู เป็นร้านขายของชำเล็กๆ ที่ขนมไม่ครบแต่ประทังชีวิตได้ 


Tips : 

1. เรื่องของแผนที่ ใน booking.com จองไว้คือ Khaosok Discovery Boutique Camp และมาตามแผนที่ google map ทุกอย่างแต่กลายเป็นว่ามันเข้าป่าไปไหนไม่รู้ผ่านเมรุเผาศพด้วย สรุป แผนที่อาจจะผิดต้องมาแผนที่ชี้ทางว่า Khasok Boutique Camp 
2. เสาร์-อาทิตย์ถ้ามาวอล์คอิน ราคาจะสูง ถึงแม้จะเดินทางวันเดียวกัน ควรจองผ่าน booking.com หรือเวปจองออนไลน์อื่นๆ
3. ห้ามลืมเด็ดขาดโลชั่น สเปรย์ หรือแม้แต่ยากันยุงแบบขดๆ ยุงเยอะทั้งกลางวันกลางคืน มาถึงเราจุดยากันยุงไว้หน้าเต๊นท์ก่อนกันยุงเข้าห้อง ถ้าลืม สามารถซื้อได้ที่ร้านขายของชำที่บอกไว้ข้างบนจ้ะ


0 comments: