Germany be my love - ฝากหัวใจไว้ที่เยอรมัน

ในเดือนที่ประเทศไทยร้อนจัดเมษายน ชาวไทยทั้งหลายกำลังละลายเป็นไอติม เรามีคุณลุงขาสั้น "พี่ฟาน" เป็นผู้เชิญไปทริปยุโรปในฝัน บันทึกการเดินทางครั้งใหม่ที่ไปไกลถึงบ้านเกิดเมืองนอนของพี่ฟานหวานใจ "เยอรมนี" ประเทศนี้มีทั้งประวัติศาสตร์ ทั้งอุตสาหกรรมการผลิต เมืองสวยชวนฝัน และเป็นประเทศที่พัฒนามาก ตามไปดูกันมีอะไรมาฝากจากประเทศเยอรมันที่มีฉายาว่าเมืองแห่งเบียร์



เที่ยวครั้งนี้โดนสปอยด์ เพราะใช้รถยนต์ส่วนตัวตลอด อาจไม่ได้ให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคนที่วางแผนการเที่ยวแบบสมบุกสมบัน แต่มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเยอรมันมาฝาก
หลังจากที่เรา ได้วีซ่าเยอรมันมา เป้าหมายการเดินทางครั้งนี้คือ 2 อาทิตย์ บินตรง Phuket – Kölnหรือ เมืองโคโลญ ใช้เวลาการเดินทาง 12 ชั่วโมงกับสายการบิน Eurowings สายการบินที่ถือว่าราคายังน่ารัก ในขณะที่จองเพียง 3 อาทิตย์ล่วงหน้า ส่วนการได้บินตรงนั้นถือว่าเพอร์เฟคสุดๆ
คำแนะนำเรื่อง Eurowings ตอนที่จอง ราคามันดูเบา แต่นั่นไม่ได้รวมอะไรมาเลย ต้องจองโหลดกระเป๋าเดินทาง อาหารและของว่างเพิ่ม รวมราคาตอนจบ ไม่เวอร์แต่ไม่ได้ถูก  ถ้าให้ดีเช็คอินออนไลน์ไปก่อน เพราะจากประสบการณ์ ณ สนามบินภูเก็ตในวันนั้น คนเป็นล้านเนื่องจากเป็น เที่ยวบินตรงสะดวกราคาดี คนเยอรมันบินออกเยอะมากเหมือนแมงเม่าเชียว
ตัดมาที่ 12 ชม แห่งความเบื่อหน่ายบนเครื่อง ใครที่อยากดูหนังแล้วไม่เอาหูฟังไป เตรียมเงินจ่าย EUR 5 เพราะไม่บริการหูฟังฟรี แต่…พนักงานบอกว่า สายที่เราใช้ฟังจากมือถือก็ใช้ได้ ถ้าดูหนังก็เสียเงินเพิ่มอีก อีเจ๊ที่นั่งข้างๆ ก็หลับบ้างดูบ้าง วนไป 3 -4 รอบ ดังนั้นเราก็ดูเอาจากจออีเจ๊นั่นเอง
Image credit : Eurowings
เมื่อเครื่อง Landing ตีสามที่สนามบิน Köln เราก็หิ้วกระเป๋าออกจากเครื่องบิน อากาศประมาณ 8-10 องศา มีรถบัสสนามบินมารอรับจากเครื่องไปส่งที่ Terminal  เพื่อตรวจวีซ่า มีคำถามเล็กน้อยสำหรับสาวไทย (ใครรู้ถึงความดังของสาวไทยในเยอรมันบ้างยกมือขึ้น) ก็ตอบไปตามจริงมาเยี่ยมแฟน มีกำหนดเดินทางกลับ เอานามบัตรที่ทำงานเสียบไว้ในพาสปอร์ตให้รู้ว่า ทำงานอะไร ก็ผ่านไม่ยาก … ระหว่างรอพี่ฟานมารับ ต่อ Internet ฟรีจากสนามบิน แวะเข้าห้องน้ำ ตกใจหน่อยก็ตรงเครื่องกดอัตโนมัติขายถุงยางในห้องน้ำหญิง เปิดเผยดีเนอะ
คืนแรกของการกลับมายุโรปนั้น ตื่นเต้นผสม Jet lag นอนไม่หลับ เรานอนโรงแรมที่เมือง Köln  คืนนึงเพราะบ้านพี่ฟานอยู่เมือง Recklinghausen ห่างจาก Köln ร้อยโล ตอนเช้าเราจะได้ไปทำความรู้จักกับเมือง Köln ก่อนไปเจอพ่อแม่ ว้าาาาาก


KÖLN

และนี่คือสถานที่สำคัญสำหรับเมืองนี้ Kölner Dom “มหาวิหารโคโลญ”  เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ก่อสร้างตั้งแต่ปี 1248 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง บูรณะบ้าง ใช้เวลากว่าหกร้อยปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์โดยเฉพาะความเสียหายจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้มีการบูรณะใหญ่ ขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้วและปัจจุบันก็ยังเห็นมีการซ่อมแซมอยู่เรื่อยๆ ไอ้วันที่เราไปมันก็ซ่อมแซม!  เค้าว่าสามารถซื้อตั๋วขึ้นไปบนยอดบนสุดของหอคอยแฝด โดยขึ้นบันไดประมาณ 600 ขั้น ชั้นขอบายยยย







แถวๆ Kölner Dom มีพวกร้านค้า ชอปปิ้ง ร้านกาแฟ และเดินอีกนิดจะเจอแม่น้ำไรน์ แม่น้ำสำคัญมากของยุโรป เกิดจากต้นน้ำในเทือกเขาแอลป์ที่สวิส ไหลผ่านลิชเตนชไตน์ เยอรมนี ออสเตรีย ฝรั่งเศส และไหลลงสู่ทะเลเหนือที่เนเธอร์แลนด์ รวมความยาวประมาณ 1,233 กม. และจบด้วยการจิบบียร์เยอรมันฟินสุดๆแถวแม่น้ำไรน์
Tips : สำหรับคนที่ขับรถมาเอง ค่าจอดรถประมาณ ชม ละ 2 ยูโร หาที่จอดรถได้ใกล้ๆ วิหารเดินไม่ไกล

BERLIN

เมืองนี้ประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นเมืองที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดกับการเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ เรานั่งเครื่องมาลง สนามบินเทเกล Tegel หนึ่งในสองสนามบิน ของเบอร์ลิน ขากลับเราบินออกอีกสนามบินชื่อ เชินเนอเฟลด์ Schonefeld

การเดินทางท่องเที่ยวในเบอร์ลิน 1 วัน ให้ซื้อตั๋วแบบ AB ( EUR 14 ) ที่สามารถนั่งทั้งรถไฟฟ้าและรถบัส Unlimited โดยที่ตั๋วจะไปหมดอายุ ตี 3 ของวันรุ่งขึ้น ราคานี้ถือว่าคุ้มมาก ถ้าใครที่ต้องการขึ้น-ลงเครื่องจากสนามบินเชินเนอเฟลด์ ให้ซื้อตั๋วที่รวมโซน C ด้วย มันจะรวมรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีสายตรงไปถึงสนามบิน คนเยอรมันมีความซื่อสัตย์สูง เนื่องจากตั๋ว สแกนครั้งแรกแล้วเดินขึ้นรถได้ทั้งวันโดยที่พนักงานรถจะไม่มาตรวจ เค้าก็ซื้อตั๋วจ่ายเงินกันทุกคน
Tips : รถไฟใต้ดินที่นี่เค้าเรียกย่อๆ ว่า U-Bahn / รถไฟฟ้าที่นี่เค้าเรียกย่อๆ ว่า S-Bahn
Day 1 : วันแรกในเบอร์ลิน มาถึงค่ำเพราะตกเครื่อง ทำได้แค่ไปเก็บฝั่ง East Side Gallery อนุสรณ์สถานสำหรับเสรีภาพ


หลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ศิลปิน 118 คนจากหลายประเทศรวมตัวกันในเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ.1990 เพื่อร่วมกันเปลี่ยนมัจจุราชคอนกรีตที่เคยคร่าชีวิตชาวเบอร์ลินตะวันออกนับร้อยคนที่พยายามหนีข้ามแดนให้เป็นห้องแสดงภาพกลางแจ้ง โดยการวาดภาพ สื่อสารความหมายถึงสันติภาพ ความหวัง และการต่อต้านสงคราม ลงบนกำแพงที่ยาว 1.3 กิโลเมตร และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งประจำเมือง


เห็นรูปนี้แล้วขำมากจริง ซาดาโกะ !




ภาพที่มีชื่อเสียงและเป็นที่จดจำคือภาพ The Mortal Kiss วาดโดยศิลปินชาวรัสเซีย ดิมิทรี วารูเยล (Dmitri Vrubel) เป็นภาพล้อเลียน การประทับริมฝีปากจูบกันอย่างดูดดื่มระหว่างสองผู้นำของโลกคอมมิวนิสต์ระหว่าง Leonid Brezhnev ผู้นำโซเวียต(ซ้าย) กับ Erich Honecker ประธานาธิบดีเยอรมันตะวันออกที่พบกันในปีค.ศ.1879




ก่อนมาเยอรมันนี่คิดเสมอว่า ชีวิตคนที่นี่มันต้องสวยหรูจากการดูแลของรัฐบาล แต่การเดินแถวๆ East Side Gallery ทำให้พบว่า เยอรมันก็มีส่วนคล้ายประเทศไทยเว้ย ฮ่าาา เด็กฮิปวัยรุ่นที่ตั้งวงนั่งดื่มเหล้าข้างทาง เด็กสาวเซอร์นั่งสูบบุหรี่กับหมาคู่ใจพร้อมตั้งกระป๋องขอเงิน ลุงแก่ๆที่เดินเก็บขวดเบียร์ไปแลกเงิน และเด็กที่หน้าเนิร์ดเดินเข้ามาถามว่าเอาโคเคนกับเฮโรอีนมั้ย
การมานั่งดื่มเบียร์ชิลๆ ริมแม่น้ำช่วงค่ำพร้อมอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกปลอดภัยเลย ต้องคอยหันหลังตลอดเวลาว่าจะโดนกระชากกระเป๋ารึเปล่า 555


ระหว่างเดินทางกลับที่พักเราอยากเข้าห้องน้ำมาก พี่ฟานเลยหยอด EUR 1 ในตู้ห้องน้ำสาธารณะ …ยังไม่ทันได้ก้าวขาเข้าไป มีชุดถอดกองอยู่ พร้อมรองเท้าและอึ คนไม่มี! เจ้าของชุดคงเมาจนถอดชุดทิ้ง ส่วนเราตกใจจนไม่กล้าเข้า สภาพห้องน้ำดูไม่ได้ (เอา EUR 1 ตรูคืนมา)
ปิดท้ายด้วยการกิน Curry Wurst ครั้งแรก
ไอ้ Curry Wurst นี่มันคือไส้กรอกดีๆ ที่เอามาราดซ้อส(คล้ายๆ)ซ้อสมะเขือเทศ แล้วโรยผงกระหรี่ ถ้าเทียบไทยคือไส้กรอกหน้า 7-11 กับน้ำจิ้ม ยังไงซะของเราก็ 3 รสกว่า แต่เอาล่ะ ไปเยอรมันหลายวัน มันก็อยากกินไรที่ใกล้เคียงบ้านเราบ้าง
Day 2 : วันที่สองในเบอร์ลิน ลัลล้าทั่วกรุงกับ Hop On – Hop Off
การเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์ แนะนำให้ ไปทัวร์กับรถ Hop On – Hop Off รถบัสคันใหญ่ๆ สีแดงกับเขียวที่พาวิ่งทั่วเมืองตามจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ อยากลงที่ไหนก็ลง อยากขึ้นเมื่อไหร่ก็รอรถรอบถัดไป อยากรู้ประวัติศาสตร์ที่ไหน ก็เอาหูฟังเสียบ พร้อมบรรยายเมื่อผ่านจุดต่างๆ (ไม่มีภาษาไทย)


ซื้อตั๋วเสร็จขึ้นไปรอบนรถและดูแผนที่คร่าวๆว่า อยากลงจุดไหนบ้างก็มาร์คเอาไว้ ส่วนเรากับพี่ฟานแวะ
Gendarmenmarkt โรงละครแห่งเบอร์ลินและโบสถ์ที่ขนาบทั้ง 2 ข้าง คือ โบสถ์เยอรมัน Deutscher Dom ด้านซ้าย และโบสถ์ฝรั่งเศส Französischer Dom ที่อยู่ด้านขวา เราสนแค่ไปถ่ายรูป 555

Check Point Charlie เป้าหมายที่เป็นไฮไลท์เรา Hop Off ไปลงสำรวจ พร้อมแวะทานอาหารเช้า
อดีตที่นี่คือ จุดผ่านแดน ระหว่างเบอร์ลินตะวันตกซึ่งเป็นเขตของสหรัฐอเมริกากับเบอร์ลินตะวันออกซึ่งเป็นเขตของสหภาพโซเวียต เป็นจุดผ่านแดนจุดสุดท้ายใน 3 จุด ( Check Point Alpha , Check Point Bravo ) ซึ่งสร้างโดยสหรัฐอเมริกา หลังจากกำแพงเบอร์ลินถูกสร้างขึ้นที่นี่เป็นจุดตรวจคนเข้า-ออกเมืองฝั่งตะวันตกส่วนที่ถูกควบคุมโดยอเมริกา

ถ้าอยากถ่ายรูปกับป้อมจุดตรวจที่มีนายทหารหน้าหล่อยืนยิ้มล่อ ก็ต้องยอมจ่ายเงินนะฮะ หรือใครอยากได้ตราประทับผ่านทาง(แบบพาสปอร์ต) ก็เสียเงิน ไม่ได้กินเงินชั้นหรอกนายหน้าหล่อ ชั้นมากับพี่ฟาน

แถวๆนั้นค่อนข้างสมบูรณ์นะ มีร้านกาแฟเต็มไปหมด  พิพิธภัณฑ์เอย ที่จัดแสดงรูปเอย บางรูปก็น่าหดหู่ เช่นรูปที่คนพยายามวิ่งหนีแล้วโดนยิง ภาพที่ญาติพี่น้องต้องคอยอุ้มลูกหลานโชว์ให้ญาติจากกำแพงอีกฝั่งได้ดู เราชอบร้านขายของที่ระลึกที่มีหนังสือพิมพ์ ฮิตเลอร์ตายแล้ว 5555

ปล. ความจริงนั้น ก่อนฮิตเลอร์จะเป็นจอมเผด็จการกุมอำนาจสูงสุดและอำมหิตขนาดนั้น นางได้วางระบบต่างๆ และพัฒนาเยอรมันได้เยอะ ในสายตาคนเยอรมันแง่นักพัฒนาถือว่าฮิตเลอร์เป็นคนที่มีศักยภาพสูง หลายคนชอบ
165577.jpg
ไปต่อกันฮะ Berliner dome = มหาวิหารแห่งกรุงเบอร์ลินและโบสถ์ประจำเมืองเบอร์ลิน  เป็นวิหารนิกายโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลิน มหาวิหารนี้เป็นที่ทำพิธีการเจิมน้ำมนต์ เข้าพิธีอภิเษกสมรส  ปล. พี่ฟานพยายามอธิบายยาวมากเรื่องพิธีศีลจุ่ม ส่วนเราก็ตัดบทมาอธิบายวิธีถ่ายรูปให้ออกมานั่งสวยๆ บนสนามหญ้าแบบนี้แหละ
165587.jpg
Fernsehturm หอโทรทัศน์แฟร์นเซทวร์ม  สูงประมาณ 368 เมตร ถือว่าเป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป เปิดให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์มุมสูงของเมืองที่ระดับความสูง 204 เมตร สำหรับเราไม่มีอะไรพิเศษเลยแต่พี่ฟานอยากขึ้น เสียดาย EUR 15 เหลือเกิน
165599.jpg
32463095_10156321918443431_8133608391407828992_n.jpg
Brandenburger Tor ประตูบรานเดนบวร์ก ประตูชัยแห่งเยอรมนี เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของเบอร์ลินที่ทุกคน(เยอรมัน)ต้องรู้จัก  คืออดีตประตูเมืองและเป็นสัญลักษณของกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เป็นประตูที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวจากทั้งหมดหลายแห่งที่เข้าเบอร์ลิน
165590


เดินต่อไปอีกนิดก็จะเจอ Holocaust Memorial อนุสรณ์แด่ชาวยิวในยุโรปที่เสียชีวิตจากคำสั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของฮิตเลอร์จำนวน 6 ล้านคน เค้าไม่ได้มาฆ่ากันที่นี่นะฮะ แค่รำลึกถึง

165589.jpg
เดินไปแค่หัวมุม จะเจอตึกรัฐสภา (Reichstag) ใช้เป็นที่ประชุมรัฐสภาของเหล่ารัฐมนตรีใประเทศเยอรมนีเปิดให้เข้าชมฟรีแต่ควรจองคิดล่วงหน้า  เค้าบอกว่าการออกแบบโมเดิร์น โดยเฉพาะโดมแก้วขนาดใหญ่ โปร่งใส เหมือนความโปร่งใสในรัฐบาลป่าว 555(คนบรรยายบนรถบัสบอกว่าคนเยอรมันเรียกเครื่องซักผ้า เพราะมองด้านบนเหมือนเครื่องฝาบน )  ถ้าได้ไปชมจะคุ้มมาก แต่คิวยาว เราก็ บัยยยยย!
165591.jpg
หลังจากจบทัวร์ชุด A ทัวร์สถานที่สำคัญแหล่งท่องเที่ยว เราก็ไปต่อทัวร์ชุด B ที่ไปเน้นเรื่องกำแพงและชีวิตความเป็นอยู่ แต่ค่อนข้างน่าเบื่อไปนิด เราก็จบทัวร์ไว้แค่ครึ่งเดียว
Tips รถบัส ทัวรฺ A และทัวร์ B จะมาบรรจบกันในบางสถานที่ สามารถเปลี่ยนไปขึ้นอีกคันเมื่อไหรก็ได้ฮะ โดยเฉพาะ Alexanderplatz สถานที่ชอปปิ้งที่เป็นหัวใจแห่งเบอร์ลิน  ไปสอยรองเท้ามาคู่นึง
165600.jpg
ตามเมืองมีตุ๊กตาพี่หมีเยอะแยะเลย เพราะคำว่า Berlin พ้องเสียง กับแบร์ Bear
RECKLINGHAUSEN
มาดูเมืองเล็กอย่าง Recklinghausen บ้าง เมืองนี้อ่านว่า เรค-คลิง-เฮา-เซ่น เป็นเมืองที่โดดเด่นด้วยทุ่งนา ฟาร์มขนาดใหญ่ อุตสาหกรรมเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 60 ของเยอรมนีและเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 22 ใน North Rhine จะบอกว่า อีพี่ฟานนนนน แกมาเกิดที่เมืองอะไรเนี่ย ไม่มีข้อมูลการท่องเที่ยวอะไรในเมืองเลย ไม่เคยมีใครไปแล้วเขียนถึง ไม่มีที่เที่ยว ไม่มีคนไทยเขียนอะไรไว้เลย ข้อมูลหาได้จาก wiki เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ แล้วร้านอาหารไทยจะเหลือเหรอ
ความเล็กของเมืองทำให้คุณพ่อขาสั้นไม่ชอบเมืองตัวเองเท่าไหร่ ต้องคอยออกไปทำกิจกรรมที่เมืองใกล้เคียง เช่น ดอร์ทมุนด์ ลิเวิอร์คูเซ่น ชาลเก้ ชื่อที่เอ่ยมาคอบอลจะรู้จัก เพราะเป็นทีมดังจากเยอรมันทั้งนั้น
กิจกรรมในหลายๆวัน ที่เราเก็บตกมาได้ จาก Recklinghausen และเมืองใกล้เคียงคือ
ในวันที่อากาศดี คนเยอรมันก็จะออกมาเดินเล่นกันเยอะ ทำสวน บาบีคิว นั่งหน้าระบียง ในขณะที่คนไทยบ่นว่าอยากจะมาสัมผัสความหนาวดันต้องมาใส่ขาสั้นเดิน  อากาศดีๆ เราก็ไปเดินเล่น ปั่นจักรยาน เดินสำรวจหมู่บ้าน ซึ่งภาพสีต้นไม้ ถนน ท้องฟ้าที่นี่ จะเป็นสีโทนอ่อนๆ ไม่ได้ contrast แรงแบบประเทศไทย ช่วงที่ไปคือ Spring ใบไม้ผลิ ดังนั้นเกสรดอกไม้ที่โดนลมพัดปลิวไปตกตามที่ต่างๆและงอกใหม่ มีแสงแดดอุ่นๆ กลางวันยาวกว่ากลางคืน บ้านเมืองดูมีชีวิตชีวามาก มุ้งมิ้ง
165610165612
Ski Hall ลานสกีจำลอง ค่าเข้า EUR 50 รวมอุปกรณ์ ฮือๆ แพงมาก พี่ฟานเล่น Ski  ส่วนเราเลือก Snowboard เคยลองเล่นมาจากทริปภูเขาหิมะที่ออสเตรเลียมาแล้ว แถมยัง Wakeboard ที่ภูเก็ตมานิดหน่อย ดังนั้นโชว์สเตปแรกด้วยความเร็วสูงสุดแถมเบรคไม่ได้ หน้าคว่ำไปจ้า ล้มลุกคลุกคลานตลอด 3 ชั่วโมง และหิมะก็ไม่ได้นุ่มเป็นปุยนุ่น ขาวจั๊วะ แบบที่จินตนาการไว้เลย ทั้งแข็ง เปียก หนาว เราเหงื่อออกเต็มหลัง ล้มเยอะอีกวันระบ ที่มต้องฝึกไว้เพื่อถ้ามีโอกาสมาเที่ยวช่วงฤดูหนาว เราจะได้ไปทริปภูเขาหิมะของจริงกัน
165608165607
165609
Swim Hall สระว่ายน้ำในที่ร่ม ต่อให้อากาศข้างนอกหนาวแค่ไหน ข้างในอุณหภูมิรองรับได้ตลอดปี ไม่ได้หวือหวาอะไร มีสไลเดอร์ สระน้ำวน สระว่ายน้ำแบบมาตรฐาน มาฆ่าเวลาก็ได้อยู่ ราคาประมาณ EUR 13 ต่อคน / 2 ชั่วโมง
165615
165616
มากันที่ อาหารการกิน ก็เน้นแป้งเน้นขนมปัง หากินง่าย กินกับ ไส้กรอก หมูรมควัน ซาลามี่ ใครชอบชีสชอบแฮม ก็ถือว่าเป็นสวรรค์สำหรับคุณละคับ
นี่คือสวรรค์สำหรับคนรัก Meat
165619.jpg
ตามมาด้วยสวรรค์สำหรับคนรัก Cheese
165618.jpg
พลาดไม่ได้ สวรรค์คนรักเบียร์ก็มา ขายขวด 30 บาท อิมพอร์ตเข้าไทยราคาขวดเกือบ 200 บาท ดังนั้นมาแล้วให้รีบดื่มไว้เยอะๆ ดื่มตุนไว้เลย กลับไทยเมื่อไหร่ ไปซบอกเบียร์สิงห์เหมือนเดิม
165617.jpg
นี่คืออาหารเช้าของพี่ฟาน ซาลามีหัวใจ ถึงจะไม่ค่อยอร่อยแต่พี่ฟานก็ซื้อมา 555
165621.jpg
การขับรถ เป็นระเบียบมาก กฎหมายคุมเข้ม ใครฝ่าไฟแดงใบสั่งเรียกเก็บถึงบ้าน ใครไม่จ่ายโดนยึดใบขับขี่ ใครอยากรู้ไรถามพี่ฟานเลยจ้ะ โดนเรียกเก็บทุกเดือน
ยานพาหนะ ยี่ห้อ Mercedes, BMW, Volkswagen มีเพียบ เพราะเยอรมันเป็นเจ้าของแบรนด์พวกนี้ ในไทยคือรถเศรษฐี แต่ที่นี่ทุกคนขับได้ 555 จริงๆแล้ว ก็ใช่จะเป็นรถของทุกครอบครัว มันก็แพงเอาเรื่องอยู่
165800.jpg
ส่วนที่เราไม่ค่อยเห็นในไทยคือ รถเปิดประทุนเรียกว่า Cabrio รถญี่ปุ่นไม่ผลิตแบบนี้ ทำให้เราตื่นเต้นมากมาย เยอรมันเป็นเมืองอากาศดี ถ้าหิมะหรือฝนไม่ตก ไม่หนาวเกิน คนที่ขับ Cabrio ก็เปิดประทุนรับลมกันทั่วไป
ขอรถเล็กๆน่ารักแบบ SMART ฺเปิดประทุนไม่ได้แต่หาที่จอดง่ายก็พอ ประหยัดน้ำมันมาก
165802.jpg
เพื่อนพี่ฟานขับรถบรรทุก อุตส่าห์มารับพาไปนั่งวนเล่นรอบเมือง กฏการทำงานที่นี่เคร่งมาก คนขับรถต้องสแกนเวลาเข้างาน ขับครบจำนวนชั่วโมงที่กำหนดแต่ละวัน ต้องหยุดทันที ใครจะดื่มก็ห้ามดื่มเกินปริมาณที่กำหนด อะไรก็ปรับ อะไรก็ยึดใบขับขี่ การที่เค้าพูดจริงทำจริงทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุได้เยอะจริงเช่นกัน
165801.jpg
เราเจอกับพ่อแม่พี่ฟานบ่อยมาก เจอทุกวัน ทั้งทำอาหารทานกันเองที่บ้าน ทั้งออกไปกินข้าวนอกบ้าน  เราก็มีโอกาสแสดงฝีมือทำกับข้าวจากเครื่องแกงสำเร็จรูปให้พ่อแม่พี่ฟานกิน แกก็ตื่นเต้นกันเนอะ พ่อแม่ที่ไม่เคยกินอาหารไทยขอเติมข้าวหลายจานเชียว
165808
สุดท้าย… ทริปนี้มาถึงตอนจบที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลย คือ งานแต่งงานของชาวเยอรมัน คนที่สามารถแต่งในโบสถ์และมีบาทหลวงประกอบพิธีให้ได้ คือคนที่จ่ายค่าภาษีบำรุงโบสถ์ซึ่งก็เยอะต่อปี แต่งเสร็จแล้วค่อยออกจากโบสถ์ก็แล้วกัน

165810
เจ้าบ่าว เจ้าสาว เพื่อนสนิทพี่ฟาน
165809
จบแล้วฮ่ะ ขอเชิญมางานแต่งนะคะ 555 ล้อเล่น!

ต้องขออภัยด้วย รูปส่วนตัวเยอะเหมือนทุกบล้อก เพราะมันคือบล้อกที่เขียนไว้ให้ตัวเองนี่แหละอ่าน ตอนเดินทางรอบโลกนะ ถ้ามีเวลาเขียนทุกประเทศที่ไปมา รับรอง วันนี้ไม่ต้องมานั่งทำงานโรงแรมหรอก ดังไปแล้ว 555 แต่ไม่ทำไง คิดได้อีกทีก็เขียนเองอ่านเองซะแล้ว
สุดท้าย ใครมีคำถามอะไร คอมเมนท์ทิ้งไว้ได้ หรือจะตามไปกดไลค์ 
Facebook : A Lady Named Fern แล้ว Inbox คุยกันทางนั้นก็ได้นะคะ

1 comments:

pg 123 said...

slot pg 123 เกมของทางค่าย pg slot นี้เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มกันทุกเกมที่ออกมาเลยเพราะเหตุว่ามีเกมให้เลือกเล่นมากมายมากยิ่งกว่า100รายการเกม ทำให้ผู้เล่นต่างชอบใจเกมของทาง pgslot